Web Hosting คืออะไร

            เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) คือ รูปแบบการให้บริการที่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการ สามารถนำเว็บเพจของตนเอง เพื่อออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งเว็บโฮสนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ HSP ' ย่อมาจาก Hosting Service Provider หรือผู้ให้บริการโฮสติ้ง เป็นธุรกิจที่นำเอาเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับงานสร้างเว็บไซต์  มาให้บริการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เว็บไซต์นั้นสามารถมองเห็นได้บนอินเตอร์เน็ต
ทุกเว็บไซต์ที่ออนไลน์บนอินเตอร์เน็ตจะต้องได้รับการฝาก หรือเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์พิเศษ ที่เรียกว่า เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเซิร์ฟเวอร์นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวติดต่อกับทุกหนทุกแห่งตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เว็บไซต์ ของคุณสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลาในโลกที่มีการต่อเชื่อม อินเตอร์เน็ตง่ายๆ แค่พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ของคุณ (Domain Name) ตัวอย่างเช่น http://www.yourcompany.com/
ผู้ให้บริการจะทำการติดตั้งระบบทั้งหมดให้คุณ เมื่อมีบุคคลที่พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ของคุณ (Web address) ชื่อนั้นจะถูกส่งตามเส้นทางจากเครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปพบเครื่องเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่คุณได้ฝากเว็บไซต์ไว้ (Host computer) ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
ดังนั้นการออนไลน์เว็บไซต์ของคุณบนอินเตอร์เน็ต สิ่งแรกที่คุณจำเป็นจะต้องมีคือ เว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งอย่างไรก็ตามการติดตั้งระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเองสามารถทำได้ แต่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมากและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคดูแล ดังนั้น บริษัทส่วนใหญ่จะไม่ดำเนินการลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของเอง และนี่คือที่มาของบริการเว็บโฮสติ้ง เว็บโฮสติ้งที่ดีจะต้องให้บริการทั้งเครื่องมืออำนวยความสะดวกและคำแนะนำแก่ผู้ใช้บริการ เพื่อให้สามารถดูแลและแก้ไขเว็บไซต์ของตนเองได้ ผุ้ให้บริการโฮสติ้งจะคิดค่าบริการจากการเช่า พื้นที่ในการให้บริการซึ่ง พื้นที่ดังกล่าวใช้สำหรับเก็บข้อมูลเว็บไซต์ที่ต้องการนำเสนอ รวมทั้งอีเมล์ ระบบฐานข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับสถิติผู้เข้าชม ฯลฯ
บริการเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่มีข้อดีอันหนึ่งที่จัดได้ว่า เป็นการให้บริการจะดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จ (Outsourced service) ซึ่งผู้ใช้บริการไม่ต้องยุ่งยากกับระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์แต่อย่างใด ผู้ให้ บริการจะดำเนินการและรับผิดชอบทั้งหมด ตั้งแต่การเริ่มติดตั้ง จนกระทั่งการดูแลรักษาระบบให้คุณ
บริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด จะต้องมีระบบที่ใช้งานง่าย และให้ผู้ใช้งานไม่ต้องรู้สึกวุ่นวายเกี่ยวกับ ฟังค์ชั่นที่ซับช้อนของระบบ เพื่อให้คุณสามารถเผยแพร่และนำเสนอผลงานได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว ที่สำคัญยังต้องคงไว้ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม
เนื่องจากในปัจจุบันมีเว็บโฮสติ้งเกิดขึ้นมากมาย เราจะมีวิธีการเลือก Web Hosting อย่างไร เนื่องจาก Web Hosting ต่างๆ ในปัจจุบัน ช่างมากมายเสียเหลือเกิน เนื่องจากเปิดง่าย และในปัจจุบันยังมีทางเลือกแบบเช่าเครื่อง ซึ่งทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินมากอีกด้วย

หลักๆ ประเด็นสำคัญในการเลือก Web Hosting ก็คือ
1. บริษัทมั่นคง สามารถติดต่อ Support ได้ มีตัวตน เพราะมี server เกิดมีปัญหา ขัดข้อง เราจะได้ติดต่อกับผู้ดูแลข้อมูลของเราได้ทุกเมื่อ
2. Server รุ่นไหน ตั้งอยู่ที่ไหน
3. Server ที่ใช้งาน เหมาะกับ ภาษาที่เราเลือกใช้ และเพียงต่อต่อ application หรือไม่ เช่น หากใช้ภาษา HTML, PHP, Falsh ก็ควรเลือกเป็น Linux Server เพราะราคาถูกกว่าและ feature คุ้มกว่า (ไม่เสียค่า license ของ windows)
4. ราคา และ Package เหมาะกับเวบไซต์ของเรา คือ เลือกเนื้อที่ ที่เราจะใช้


เว็บโฮสติ้งคืออะไร?
พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูล เช่น HTML,รูปภาพ, โปรแกรมต่างๆ ไว้ที่ "เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา (24 ชั่วโมง/ 7 วัน) Web Hosting ทำหน้าที่ ในการแผยแพร่เว็บเพจของเราออกสู่ internet ให้ผู้อื่นเข้าชมได้ โดย Web Hosting จะเชื่อมต่อกับ Internet ตลอดเวลาเพื่อให้บริการเมื่อมีการเรียก ข้อมูลของ Web Site ที่จัดเก็บอยู่ นอกจากนี้ยังให้บริการ การใช้งานอีเมล์ หรือ Script ต่างๆ เป็นต้น
ก่อนที่คุณจะเลือก Web Hosting คุณควรจะพิจารณาเว็บไซต์คุณก่อนว่าเว็บไซต์คุณเป็นแบบไหนเพื่อที่จะสามารถเลือก Hosting ได้ตรงกับความต้องการกับเว็บไซต์คุณ


Hosting ตั้งอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ
ให้พิจารณาจาก กลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาที่เว็บของคุณคือใคร หากเป็นลูกค้าในประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ในประเทศ เพราะเวลาลูกค้าคุณกดดูข้อมูลในเว็บไซต์คุณ ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า ไม่ต้องวิ่งไปหาข้อมูลที่ต่างประเทศ แต่หากลูกค้าคุณเป็นลูกค้าต่างประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ เพื่อการเข้าถึงของลูกค้าคุณจะได้รวดเร็วกว่าที่จะต้องเข้ามาดูข้อมูลที่เก็บไว้ที Hosting ในเมืองไทย


ขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ต้องพอเพียงกับข้อมูลของ Web Site ที่จัดทำ
ปกติพื้นที่ขนาด 5 MB ก็เพียงพอต่อการนำเว็บไซต์ทางธุรกิจทั่วไป ที่มี่ภาพและข้อมูล ยกเว้นแต่หากท่านจะมีข้อมูลเป็นจำนวนมากๆ เช่น ข้อมูลรูปภาพหรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้หลายรายการ และแต่ละไฟล์มีขนาดใหญ่ ท่านอาจจะต้องพื้นที่เพิ่ม และบางแห่งจะนำ พื้นที่ๆเก็บ E-mail มานำไปคิดรวมกับพื้นที่ๆเก็บไฟล์ข้อมูลของเว็บไซต์คุณ ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่ของเว็บไซต์ท่านไม่เพียงพอต่อการใช้งานได้ เพราะจะต้องใช้ร่วมกับ E-mail ซึ่งต้องเช็กกับทางผู้ให้บริการ ก่อนตัดสินใจใช้ E-mail Box แยกออกจากพื้นที่เก็บไฟล์ข้อมูลเว็บหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่หากรวมกัน ท่านอาจจะต้องการพื้นที่ Host อย่างน้อย 15 MB เป็นอย่างต่ำ


จะมีการใช้เว็บโปรแกรมมิ่งไหมในเว็บของคุณ?
ถ้าหากเว็บไซต์คุณมีการใช้เว็บโปรแกรมมิ่งใน การทำเช่น เว็บบอร์ด, โปรแกรมส่งเมล์หาสมาชิก (Mailing List), หรือ โปรแกรมการเก็บฐานข้อมูล (Database) คุณควรจะเช็กกับทางผู้ให้บริการ Hosting ว่า Server ของเค้าเป็น OS อะไร ถ้าหากเป็น Windows ก็สามารถใช้กับ ภาษาในการเขียนโปรแกรมได้แก่ ASP, PHP, Perl ได้ แต่หากเป็น Unix ก็จะสามารถใช้ได้แค่ PHP, Perl เท่านั้น หรือบางท่านอาจจะต้องการใช้ระบบรักษาความปลอดภัย ก็อาจจะต้องใช้บริการ ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลแบบ SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งจะเหมาะกับเว็บไซต์ทีทำ E-Commerce

TOP